‘ดริปวิตามิน (IV Drip)’ หรือ ‘ฉีดวิตามิน’ เข้าสู่ผิว เป็นการให้วิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางสายน้ำเกลือ ส่งตรงเข้าสู่กระแสเลือด และร่างกายสามารถนำดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว และนำไปใช้งานได้ทันทีถึง 100% เพราะไม่ผ่านการทำงานของตับ กระบวนการย่อย หรือการกรอง วิตามินที่ได้รับจึงเข้าไปฟื้นฟู บำรุงร่างกาย และผิวพรรณได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยวิตามินส่วนเกินจะถูกขับออกทาง ปัสสาวะ และอุจจาระได้อย่างรวดเร็วและไม่มีสารตกค้าง วิธีนี้จึงถือเป็นวิธีการดูแลผิวจากภายใน โดยจะแตกต่างจากการทาผิว หรือการทานวิตามินเสริม ที่ร่างกายจะดูดซึมได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
ฉีดวิตามิน หรือกิน ดีกว่ากัน
การกิน หรือการฉีดวิตามินนั้น เป็นเรื่องที่ดีทั้งคู่ แต่การฉีดวิตามินจะได้ผลลัพธ์ที่เร็วกว่า และได้รับทั้งสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ ครบถ้วนมากกว่า เพราะการกินวิตามินนั้น จะต้องใช้ระยะเวลาในการดูดซึม
แบบกิน
ข้อดี
- หาซื้อได้ง่าย
- ทานง่าย และรวดเร็ว
- ไม่มีบาดแผล
ข้อเสีย
- หากรับทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะทำให้ไตทำงานหนักเกินไป
- ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์
แบบฉีด / ดริปวิตามิน
ข้อดี
- ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที
- เห็นผลลัพธ์ได้ไวกว่าแบบ กิน
- เหมาะกับคนที่ไม่ทานยาเม็ด
ข้อเสีย
- เจ็บเล็กน้อย
- ใช้เวลานานกว่าแบบกิน และต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ประโยชน์ / ข้อดีของวิตามินดริป
ประโยชน์ที่จะได้จากการดริปวิตามินนั้นขึ้นอยู่กับสูตรของวิตามินหรืออาหารเสริมที่ดริปเข้าผิวด้วย โดยหลักๆ สูตรที่นิยมใช้จะเป็นสูตรที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ซึ่งจะมีส่วนช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเปล่งปลั่ง สดใสขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มระดับการต้านสารอนุมูลอิสระ และเสริมคอลลาเจนเพื่อให้ผิวสุขภาพแข็งแรงขึ้น หรือจะเป็นสูตรอื่นๆ เช่น การช่วยดีท็อกซ์ผิวจะเหมาะกับผิวที่เผชิญมลภาวะ หมองคล้ำ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวดูแข็งแรง และนอกจากเรื่องของการดูแลปัญหาผิวแล้ว ยังมีสูตรที่ช่วยเพิ่มระดับวิตามินในร่างกายด้วย เช่น วิตามินบี วิตามินซี เป็นต้น และตอบโจทย์สำหรับคนที่ขี้เกียจรับประทานวิตามินแบบเม็ด และเห็นผลมากกว่า
ดริปวิตามิน อันตรายไหม
การฉีด หรือดริปวิตามิน (IV Drip) จะอันตรายหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การซักประวัติ การเลือกชนิด หรือสูตรวิตามิน ที่ต้องได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองจาก อย. องค์กรอาหาร และยา โดยการให้วิตามินนั้นต้องถูกให้ในปริมาณที่เหมาะสม อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และทำโดยคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพราะหากทำโดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจทำให้ฉีด หรือให้ยาในอัตราที่เร็วเกินไป ทำให้เกิดมีฟองอากาศอุดตันเส้นเลือดได้
ดริปวิตามิน เห็นผลจริงไหม
การดริป หรือฉีดวิตามินนั้นเห็นผลได้จริง โดยส่วนใหญ่เรื่องอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลียจะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้ง แต่สำหรับเรื่องของผิวที่กระจ่างใสขึ้น จะเห็นผลเมื่อทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้งขึ้นไป
การดริป หรือฉีดวิตามินนั้น คือการนำสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิว เช่น วิตามิน A, C, E และสารอาหารอื่นๆ ที่อยู่ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้ทันที โดยวิธีนี้จะเห็นผลลัพธ์ที่โดดเด่น กว่าการรับประทานอาหารเสริม หรือการทาสกินแคร์ อย่างไรก็ตามการดริปวิตามินก็เป็นเพียงการให้สารอาหารกับร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมฟื้นฟูตนเองได้ดีขึ้นเท่านั้น ไม่มีความสามารถในการเข้าไปแก้ไขปัญหาผิวโดยตรง จึงต้องใช้เวลาเพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมฟื้นฟูตัวเอง ซึ่งจะเห็นผลอย่างแน่ชัด เมื่อไหร่นั้นขึ้นกับสุขภาพผิวของแต่ละคน
ดริปวิตามิน กี่ครั้งเห็นผล
การดริปวิตามินส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งที่ 3-5 ขึ้นไป โดยทำอาทิตย์ละครั้งอย่าง เมื่อพอใจกับสภาพผิว ที่เริ่มมีสุขภาพดีขึ้น ก็สามารถลดความถี่ในการดริปวิตามินผิวเป็น 1 ครั้งทุกๆ 2-3 อาทิตย์ หรือ 1 ครั้งต่อเดือน
แต่คำตอบนี้อาจไม่สามารถระบุเป็นจำนวนครั้งที่แน่นอน และอาจไม่ได้ใช้จำนวนครั้งเท่ากันทุกคน เนื่องจากระยะเวลาแสดงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการแสดงผลลัพธ์อีกด้วยไม่ว่าจะปริมาณที่ดริปวิตามินเข้าผิว ความถี่ในการดริปวิตามินเข้าผิว หรือแม้แต่พฤติกรรมส่วนตัวของแต่ละบุคคล
ดริปวิตามิน อยู่ได้นานแค่ไหน
ปกติหลังการ ฉีด หรือดริปวิตามินผิวอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ดีของการดริป จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล เพราะการดริปวิตามินก็เป็นเพียงการให้สารอาหารกับร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมฟื้นฟู และบำรุงตัวเอง ยิ่งเราบำรุงและดูแล อย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นาน แต่ถ้าหากไม่ดูแลตัวเอง สภาพผิวก็สามารถที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้
การเตรียมตัว ก่อน/หลัง ฉีด/ดริป วิตามิน
ก่อนฉีด หรือดริปวิตามิน (IV Drip) ควรพูดคุยถึงความต้องการ โรคประจำตัว และปัญหาผิวที่เป็น เพื่อที่แพทย์จะประเมินปัจจัยร่างกายของคนไข้ และเลือกสูตรวิตามินให้เหมาะสมกับคนไข้นั้นๆครับ โดยการ Drip Vitamin เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
หลังรับ ดริปวิตามิน (IV Drip) หรือ ฉีดวิตามิน ควรดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญคือต้องทาผลิตภัณฑ์กันแดดทั้งสำหรับผิวหน้าและผิวกาย เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการ Drip Vitamin
การเลิกฉีด หรือดริปวิตามิน (IV Drip) ไม่เกิดผลเสียใดๆต่อร่างกาย เพราะตัววิตามินที่ได้รับ สามารถถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระได้โดยไม่มีการสะสมหรือตกค้างในร่างกาย มีเพียงแค่ความกระจ่างใสของผิวที่จะลดลง
ดริปวิตามินเหมาะหรือไม่เหมาะกับใคร
การดริปวิตามิน (IV Drip) หรือฉีดวิตามิน แต่ละครั้งจะมีการผสมแร่ธาตุ และวิตามินที่เป็นสูตรเฉพาะ และถูกกำหนดโดยแพทย์ จากปัญหา และข้อกังวลของผู้เข้ารับบริการแต่ละบุคคล โดยเหมาะกับ
- ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้เรื้อรัง เช่นคัดจมูกง่าย ไอจามบ่อยๆ ติดเชื้อหวัดบ่อย
- ผู้มีผื่นคันที่ผิวหนังแบบเรื้อรัง และลมพิษเรื้อรัง
- ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองด้วยการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริม
- ผู้ที่ไม่สามารถทานยาเม็ดได้
- ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ผู้ที่ต้องการ การฟื้ฟูสภาพผิวอย่างเร่งด่วน
- ผู้ที่รู้สึกร่างกายอ่อนเพลีย ขาดวิตามิน
- ผู้ที่เปลี่ยนแปลงสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส และแข็งแรงขึ้น
- ผู้ที่นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ผู้ที่ขาดความชุ่มชื้น จนผิวแห้ง หยาบกร้าน และหมองคล้ำ
- ผู้ที่อยากดูแลผิวควบคู่ไปกับการรับประทานวิตามิน หรืออาหารเสริมตัวอื่นๆ เพื่ออยากให้เห็นประสิทธิภาพมากขึ้น
การดริปวิตามินเป็นวิธีการเพิ่มวิตามินเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ดังนั้นแม้ว่าจะเต็มไปด้วยข้อดี แต่ก็มีข้อเสียด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ที่ได้รับวิตามินแล้วกลายเป็นข้อเสีย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมถึงมีข้อจำกัดบางอย่างในการรับวิตามิน จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ การดริปหรือฉีดวิตามินจึง
ไม่เหมาะกับ
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยา หรือแพ้วิตามิน
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือเคยมีประวัติผิวแพ้ที่รุนแรง
- ผู้ป่วยโรคไต ที่ต้องล้างไต
- ผู้ป่วยโรคตับรุนแรง
- ผู้ป่วยโรค G6PD
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอื่นๆ
เกี่ยวกับ EDNA Wellness
EDNA Wellness เป็นคลินิกในกรุงเทพฯ ที่เชี่ยวชาญด้านสเต็มเซลล์ (เซลล์บำบัด) ที่เน้นการฟื้นฟูระบบประสาทฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และข้อเข่าเสื่อม และ IV Drip แบบเฉพาะบุคคล รวมถึงการดูแลด้านความงาม และสุขภาพแบบองค์รวมอย่างมืออาชีพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official: @ednawellness WhatsApp +66 (0) 64 505 5599