blank
blank

สเต็มเซลล์ Stem Cells หรือ เซลล์ต้นกำเนิด คืออะไร?

สเต็มเซลล์ (Stem Cells) หรือ เซลล์ต้นกำเนิด คือเซลล์ที่มีในร่างกายมนุษย์ทุกคน และเป็นเซลล์ที่ยังไม่มีหน้าที่เฉพาะเจาะจง แต่มีความสามารถในการพัฒนา และเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย โดยสามารถแบ่งตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นเซลล์เนื้อเยื่อชนิดต่างๆได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เซลล์ผิวหนัง เซลล์ปอด เซลล์ตับ เซลล์หัวใจ และอื่นๆ ซึ่งมีศักยภาพในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย โดยปกติเซลล์เหล่านี้เป็นเซลล์ที่เรามีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว และจะถูกปล่อยออกมามากขึ้น เมื่อร่างกายต้องการการรักษา

ในทุกๆวันร่างกายจะมีการอักเสบ และเสื่อมสภาพ สเต็มเซลล์ จะทำหน้าที่ในการ ช่วยซ่อมแซมความเสื่อมนั้นๆ ตามกลไกตามธรรมชาติ เช่น เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกาย มีการอักเสบ หรือบาดแผล สเต็มเซลล์จะวิ่งไปซ่อมตรงจุดนั้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งถ้าร่างกายสามารถผลิตสเต็มเซลล์ได้เยอะ เราจะแก่ช้า ป่วยยาก และหายเร็ว เพราะร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ดี แต่เมื่อเรามีอายุที่มากขึ้น ร่างกายจะผลิตสเต็มเซลล์ได้น้อยลง ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพลง ดูแก่ลง และเมื่อเป็นโรคต่างๆ เราจะฟื้นตัวได้ช้าลง

blank

ในปัจจุบัน มีการใช้สเต็มเซลล์​ (Stem Cell) หรือ เซลล์ต้นกำเนิดในการรักษาโรคต่างๆ รวมถึงการนำมาใช้ในด้านความงาม ชะลอวัย (anti-aging) ซึ่งการเก็บสเต็มเซลล์เป็นที่นิยมมาก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เนื่องจากในวงการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สเต็มเซลล์เป็นที่สุดของวงการความงาม และมีความสำคัญในการรักษาโรคในอนาคตของทุกวงการแพทย์

ประเภทของสเต็มเซลล์

สเต็มเซลล์ที่นำมาใช้ทางการแพทย์นั้นอยู่หลายประเภทและมีความแตกต่างกันในการนำไปใช้ในการรักษาโรค โดยปัจจุบันสามารถแบ่งได้ 4 ประเภทหลักด้วยกัน ดังนี้

1.สเต็มเซลล์จากตัวอ่อน (Embryonic Stem Cells)

สเต็มเซลล์จากตัวอ่อน (Embryonic Stem Cells) เป็นสเต็มเซลล์ต้นกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง โดยทั่วไปจะมาจากตัวอ่อนที่มีอายุประมาณ 3-5 วัน ซึ่งอยู่ในระยะที่เรียกว่า บลาสโตซิสต์ (Blastocyst) สเต็มเซลล์ประเภทนี้มีศักยภาพสูง สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดใดก็ได้ในร่างกาย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในการนำไปใช้รักษาโรคทางพันธุกรรมหรือโรคที่เกิดจากการเสื่อมของอวัยวะ แต่เนื่องจากการคัดแยกสเต็มเซลล์ชนิดนี้เป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรมจึงถูกควบคุมในการนำไปใช้งานจริง

2.สเต็มเซลล์จากผู้ใหญ่ (Adult Stem Cells)

สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อโตเต็มวัย (Adult Stem Cells) เป็นสเต็มเซลล์ที่พบได้ในร่างกายของผู้ใหญ่และเด็ก ซึ่งมีหน้าที่หลักในการซ่อมแซมและทดแทนเซลล์ที่เสียหาย พบได้ในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ไขกระดูก ไขมัน รก สายสะดือ และกล้ามเนื้อ

ตัวอย่างของ เซลล์ต้นกำเนิด ประเภทนี้ ได้แก่ Hematopoietic Stem Cells (HSCs) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดที่พบในไขกระดูกและสามารถพัฒนาเป็นเซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด ทำให้มีศักยภาพสูงในการนำมาฟื้นฟูจากความผิดปกติของเซลล์ในกลุ่มเลือด เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดง, เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด

3.สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ (Cord Blood Stem Cells)

สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ (Cord Blood Stem Cells) เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถเก็บรักษาได้จากเลือดสายสะดือของทารกแรกเกิด ทำให้เป็นสเต็มเซลล์ที่อุดมไปด้วยเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดที่มีคุณภาพสูง สามารถนำไปใช้ฟื้นฟูผู้ป่วยในกลุ่มโรคเลือด เช่น ลูคีเมีย โรคโลหิตจางชนิดพันธุกรรม และโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน

ข้อดีของสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือคือมีความเข้ากันได้ทางภูมิคุ้มกันสูงและมีความเสี่ยงต่อภาวะการปฏิเสธของร่างกายน้อยกว่าสเต็มเซลล์ที่ได้จากแหล่งอื่น ทำให้พ่อแม่มือใหม่หลายคนเลือกที่จะเก็บสเต็มเซลล์เลือดสายสะดือเอาไว้เพื่อใช้สำหรับฟื้นฟูสุขภาพให้กับคนในครอบครัวและตัวลูกน้อยเอง

4.สเต็มเซลล์จากการปรับแต่งยีน (Induced Pluripotent Stem Cells: iPSCs)

สเต็มเซลล์ที่ได้จากการปรับแต่งยีน (Induced Pluripotent Stem Cells หรือ iPSCs) เป็นสเต็มเซลล์ที่นักวิทยาศาสตร์พัฒนาขึ้นจากเซลล์ที่โตเต็มวัย เช่น เซลล์ผิวหนัง โดยการใช้กระบวนการดัดแปลงเซลล์ในห้องปฏิบัติการให้กลับมามีคุณสมบัติคล้ายกับสเต็มเซลล์ที่ได้จากตัวอ่อนหรือเอ็มบริโอของมนุษย์

iPSCs ถือเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ เพราะสามารถผลิตได้โดยไม่ต้องใช้ตัวอ่อนมนุษย์ ลดข้อถกเถียงทางจริยธรรม และมีความสามารถในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ทุกชนิดในร่างกายได้ไม่ต่างจากสเต็มเซลล์จากตัวอ่อน ทำให้ถูกนำไปใช้ในงานวิจัยทางการแพทย์อย่างแพร่หลาย

สเต็มเซลล์ ชนิดมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem Cells) หรือที่รู้จักกันว่า MSCs

สเต็มเซลล์สามารถพบได้ในหลายที่ในร่างกาย รวมถึงไขกระดูก และเนื้อเยื่อจากสายสะดือ “มีเซนไคม์มอล สเต็มเซลล์” Mesenchymal Stem cell (MSCs) หรือสเต็มเซลล์ชนิดมีเซนไคม์ เป็นสเต็มเซลล์จากรก และสายสะดือ ที่มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์และมีประสิทธิภาพในการรักษาหลากหลายโรค

เซลล์ต้นกำเนิดชนิดที่สกัดมาจากสายสะดือ (Umbilical Cord Mesenchymal Stem Cells: MSCs) เป็นเซลล์ ที่ยังไม่มีหน้าที่ทำงานในระบบใดๆ ภายในร่างกาย แต่สามารถแบ่งตัว และเจริญเติบโตตามอวัยวะต่าง ๆ และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นเนื้อเยื่อชนิดอื่นๆ ได้หลากหลาย และมีคุณสมบัติในการหลั่งสารไซโตไคน์ Cytokine ที่สามารถช่วยลดการอักเสบ และปรับสมดุลภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ ซึ่งถูกนำมาใช้สำหรับฟื้นฟูและทดแทนเซลล์ที่เสียหายไปของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

blank

การประยุกต์ใช้สเต็มเซลล์ในทางการแพทย์

ปัจจุบัน stem cell ถือเป็นความหวังทางการแพทย์และผู้ป่วย เนื่องจากถูกนำมาใช้ในการรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยให้หลายกรณี ดังนี้

• การรักษาโรคทางโลหิตวิทยา เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และโรคโลหิตจางชนิดต่าง ๆ โดยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เพื่อสร้างเม็ดเลือดใหม่ให้กับผู้ป่วย

• การรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ และการบาดเจ็บของไขสันหลัง โดยการใช้สเต็มเซลล์เพื่อสร้างเซลล์ประสาทใหม่และฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาท

• การปลูกถ่ายอวัยวะและการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ เช่น การใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อปลูกถ่ายกระจกตา ซ่อมแซมหัวใจหลังภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และการรักษาแผลเรื้อรัง

• เวชศาสตร์ฟื้นฟูและความงาม เช่น การใช้สเต็มเซลล์ในการฟื้นฟูผิวหนัง ลดเลือนริ้วรอย และเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่

นอกจากนี้ยังมีการนำสเต็มเซลล์ไปใช้ในการฟื้นฟูผู้ป่วยจากโรคหลอดเลือดสมอง และฟื้นฟูจากโรคข้อเข่าเสื่อมอีกด้วย 

สเต็มเซลล์ ทางเลือกแห่งอนาคตที่ช่วยคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้ป่วย

สเต็มเซลล์ เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงในการรักษาโรค ฟื้นฟูอวัยวะ และปรับปรุงคุณภาพชีวิต แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้ยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในอนาคตอันใกล้นี้ สเต็มเซลล์ อาจจะก้าวขึ้นมามีบทบาทที่สำคัญในการใช้รักษาและฟื้นฟูจากภาวะความเจ็บป่วยกันมากขึ้น และอาจจะกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดอัตราการสูญเสียจากโรคร้ายต่าง ๆ ก็เป็นได้

เกี่ยวกับ EDNA Wellness

EDNA Wellness เป็นคลินิกในกรุงเทพฯ ที่เชี่ยวชาญด้านสเต็มเซลล์ (เซลล์บำบัด) ที่เน้นการฟื้นฟูระบบประสาทฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และข้อเข่าเสื่อม และ IV Drip แบบเฉพาะบุคคล รวมถึงการดูแลด้านความงาม และสุขภาพแบบองค์รวมอย่างมืออาชีพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

LINE Official: @ednawellness

WhatsApp +66 (0) 64 505 5599

www.ednawellness.com

error:Content is protected !!
blank